
ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี มีนามเดิมว่า คอร์ราโด เฟโรจี
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน พุทธศักราช 2435 ที่ตำบลซานตายิโอวานนี่
แห่งนครฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี่
ซึ่งเป็นนครที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านศิลปกรรมและเป็นที่เกิดของอัจฉริยะทางด้านศิลปะของโลกอีกหลายท่าน
บิดาชื่อ นาย Artudo Feroci และมารดาชื่อนาง Santina
Feroci
ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้เข้าศึกษาต่อที่สถาบันศิลปะแห่งฟลอเรนซ์
สำเร็จการศึกษาเมื่อ ปี พ.ศ. 2457
ผีมือด้านงานศิลปะของท่านดีเด่นเป็นที่ยอมรับกันในหมู่ศิลปิน
โดยได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ที่สถาบันศิลปะแห่งนครฟลอเรนซ์ อิตาลี
และท่านสอนอยู่นานจนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
แห่งประเทศสยาม มีพระราชประสงค์จะได้ช่างปั้นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างอนุสาวรีย์
ท่านศาสตราจารย์ศิลป์จึงได้รับเลือกจากรัฐบาลสยามพร้อมด้วยความสมัครใจของท่านด้วย
ท่านได้เดินทางเข้ามาเมืองไทยในปี
พ.ศ. 2466 รับราชการในตำแหน่งช่างปั้นประจำกรมศิลปากร ต่อาเมื่อ พ.ศ. 2492
ศาสตราจารย์ศิลป์ได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการประกวดงานศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 1
โดยการให้รางวัลเกียรตินิยมเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง
แก่ผู้ได้รับรางวัล ให้เป็นที่รู้จักและเผยแพร่
ช่วยส่งเสริมศิลปินไทยให้มีกำลังใจทำงานศิลปะ
ท่านศาสตราจารย์ศิลป์ได้เขียนบทความเกี่ยวกับศิลปะสมัยใหม่ แบบอย่าง
และวิวัฒนาการในการสร้างสรรค์งานศิลปะอื่น ๆ อีก การวิจัยศิลปโบราณ การปั้น
หล่ออนุสาวรีย์รูปบุคคล ประติมากรรม อีกมากมายเกินกว่าจะกล่าวได้ ณ ที่นี้
|
|
|

ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี มีนามเดิมว่า คอร์ราโด เฟโรจี
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน พุทธศักราช 2435 ที่ตำบลซานตายิโอวานนี่
แห่งนครฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี่
ซึ่งเป็นนครที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านศิลปกรรมและเป็นที่เกิดของอัจฉริยะทางด้านศิลปะของโลกอีกหลายท่าน
บิดาชื่อ นาย Artudo Feroci และมารดาชื่อนาง Santina
Feroci
ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้เข้าศึกษาต่อที่สถาบันศิลปะแห่งฟลอเรนซ์
สำเร็จการศึกษาเมื่อ ปี พ.ศ. 2457
ผีมือด้านงานศิลปะของท่านดีเด่นเป็นที่ยอมรับกันในหมู่ศิลปิน
โดยได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ที่สถาบันศิลปะแห่งนครฟลอเรนซ์ อิตาลี
และท่านสอนอยู่นานจนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
แห่งประเทศสยาม มีพระราชประสงค์จะได้ช่างปั้นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างอนุสาวรีย์
ท่านศาสตราจารย์ศิลป์จึงได้รับเลือกจากรัฐบาลสยามพร้อมด้วยความสมัครใจของท่านด้วย
ท่านได้เดินทางเข้ามาเมืองไทยในปี
พ.ศ. 2466 รับราชการในตำแหน่งช่างปั้นประจำกรมศิลปากร ต่อาเมื่อ พ.ศ. 2492
ศาสตราจารย์ศิลป์ได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการประกวดงานศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 1
โดยการให้รางวัลเกียรตินิยมเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง
แก่ผู้ได้รับรางวัล ให้เป็นที่รู้จักและเผยแพร่
ช่วยส่งเสริมศิลปินไทยให้มีกำลังใจทำงานศิลปะ
ท่านศาสตราจารย์ศิลป์ได้เขียนบทความเกี่ยวกับศิลปะสมัยใหม่ แบบอย่าง
และวิวัฒนาการในการสร้างสรรค์งานศิลปะอื่น ๆ อีก การวิจัยศิลปโบราณ การปั้น
หล่ออนุสาวรีย์รูปบุคคล ประติมากรรม อีกมากมายเกินกว่าจะกล่าวได้ ณ
ที่นี้

ท่านศาสตราจารย์ศิลป์
พีระศรี
ได้สนับสนุนการอนุรักษ์ศิลปะโบราณและเป็นผู้บุกเบิกการสร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัย
ศิลปะสมัยใหม่ของประเทศไทยมาตลอดเป็นเวลาเกือบสี่สิบปีจวบจนท่านได้ถึงแก่กรรมในขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งคณบดี
ปฎิมากรรมคนแรกของมหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งท่านได้เป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร
ท่านเปรียบเสมือนบิดาของวงการศิลปะร่วมสมัยของประเทศไทย
ผลงานทางด้านศิลปะของท่านก็เป็นสิ่งที่รู้จักและได้รับการกล่าวขานกันอยู่เสมอ
ในการสร้างสรรค์งานศิลปะที่เกี่ยวกับพระราชานุสาวรีย์ อนุสาวรีย์ และผลงานศิลปะอื่น
ๆ อีกมากมาย เช่น พระปฐมบรมราชานุสรณ์พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช กรุงเทพฯ,
พระราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สวนลุมพินี กรุงเทพฯ,
อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) นครราชสีมา, อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี, อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่ ธนบุรี,
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ และอนุสาวรีย์อื่น ๆ
อีกหลายแห่ง
พ.ศ. 2502 ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้สมรสกับ น.ส.มาลินี
เคนนี่
ซึ่งเป็นคนไทยผู้มีส่วนช่วยเหลือท่านมากทั้งชีวิตส่วนตัวและการงานของท่าน
พ.ศ.
2505
ท่านได้ร่างโครงการหอศิลปสมัยใหม่ไว้ให้กับเมืองไทยในอนาคตและได้ถึงแก่กรรมด้วยการผ่าตัดมะเร็งกระเพาะที่โรงพยาบาลศิริราช
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2505 ได้รับพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์
วัดเทพศิรินทราวาส เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2506 เวลา 17.00
น.
ข้อมูลประกอบ พิพิธภัณฑ์ศิลป์ พีระศรี |
|
|
|
|
|
|
พระเครื่อง สิ่งสะสม ทุกรายการ
รับประกันความแท้ และ ความพอใจ |
|
Copyright 2009 www.collection9.net All
Rights Reserved. |
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น